คำแถลงข่าวภาพยนตร์ เรื่อง “เชคสเปียร์ต้องตาย”

9.8.12

 

ENGLISH version








คำแถลงข่าวภาพยนตร์ เรื่อง “เชคสเปียร์ต้องตาย”
วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๕
ข้าพเจ้านายมานิต ศรีวานิชภูมิ และนางสาวสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ร่วมกันเป็นผู้ฟ้องคดี โดยมีผู้ถูกฟ้อง คือ คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ และคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ ๓ได้ร่วมกันไม่อนุญาตให้ภาพยนตร์ เรื่อง “เชคสเปียร์ต้องตาย” ซึ่งแปลจากบทประพันธ์โดยกวีเอกของโลก วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ เรื่อง “The Tragedy of Macbeth” ให้เผยแพร่ในราชอาณาจักร ด้วยเหตุผลดังนี้
๑. คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ ๓ ไม่อนุญาตด้วยเหตุผลว่า “มีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกสามัคคีระหว่างคนในชาติ ทั้งที่เหตุผลดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย และในสังคมไทยมีเหตุการณ์ที่มีการเข่นฆ่าประชาชนเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน อาทิเช่น เหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖, เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙, เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕ และกรณีสงครามยาเสพติดที่มีผู้เสียชีวิตกว่า ๒,๕๐๐ กว่าคน (๑ กุมภาพันธ์ ถึง ๓๐ เมษายน ๒๕๔๖) เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นความรุนแรงของสังคมไทย ที่มิอาจลืมเลือนหรือปกปิดไว้ได้แต่อย่างใด โดยชนชาวไทยสมควรมาเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อร่วมมือกันมิให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
๒, คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการชุดดังกล่าว ไม่อนุญาตด้วยเหตุผลว่า “มีบางฉากมีเนื้อหาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน” หรือ “อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ และเกียรติภูมิของประเทศ” ทั้งที่เหตุการณ์ความรุนแรงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยหลายครั้งหลายหน สมควรเป็นบทเรียนตามข้อ ๑. ส่วนเหตุผลความมั่นคงของรัฐนั้น หมายถึง “รัฐชาติ” มิใช่รัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง และเกียรติภูมิของประเทศก็เช่นกัน มิใช่เกียรติภูมิของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
ดังนั้น ผู้ฟ้องคดีทั้งสองจึงขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเพิกถอนมติและคำสั่งของผู้ถูกฟ้องทั้งสอง ที่ห้ามฉาย ห้ามจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง “เชคสเปียร์ต้องตาย” ในราชอาณาจักร และเรียกร้องค่าเสียหายจากเงินทุนที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์ เรื่องดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นถึงวันฟ้อง เป็นจำนวน ๗,๕๓๐,๓๘๘.๕๕ บาท (เจ็ดล้านห้าแสนสามหมื่นสามร้อยแปดสิบแปดบาทห้าสิบห้าสตางค์) ส่วนค่าใช้จ่ายอันเป็นค่าตอบแทนส่วนตัว ในกระบวนการผลิตภาพยนตร์ของผู้ฟ้องทั้งสอง และค่าเสียหายจากการเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยเหตุผลที่ผู้ถูกฟ้องอ้างและค่าเสียโอกาสในการร่วมลงทุนสร้างภาพยนตร์กับบุคคลอื่น ผู้ฟ้องคดีทั้งสองไม่ติดใจเรียกร้องแต่อย่างใด
นายมานิต ศรีวานิชภูมิ
นางสาวสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์