คำพูดแก้ต่างให้ ‘เชคสเปียร์ต้องตาย’ ที่ผู้กำกับพูดกับกองเซ็นเซอร์ วันที่ 3 เมษา 55

5.4.12

 

คำพูดแก้ต่างให้ เชคสเปียร์ต้องตาย

ที่ผู้กำกับพูดกับกองเซ็นเซอร์ วันที่ 3 เมษา 55

ดิฉันไม่ได้ทำหนังเชคสเปียร์เพื่อความโก้เก๋ เพราะเห่อฝรั่ง เชคสเปียร์ไม่ใช่กวีเอกของอังกฤษเท่านั้น แต่เป็นกวีเอกของโลกคนหนึ่ง ผลงานของเชคสเปียร์คือมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ซึ่งสอนให้คนรู้จักที่จะวิเคราะห์ตนเองและผู้อื่น อยากถามว่า เพราะเหตุใด คนไทยจึงไม่มีสิทธิรับมรดกอันล้ำค่านี้? มรดกที่คนชาติอื่นๆ ทั่วโลกเขาได้รับคุณประโยชน์กันมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว จะมีอีกกี่ครั้งที่จะมีคนไทยลุกขึ้นมาสร้างหนังจากละครเชคสเปียร์? เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก และอาจเป็นเรื่องสุดท้าย

คนไทยเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกส่วนที่ไร้คุณประโยชน์ก็มากมาย ส่วนที่เป็นพิษภัยก็มากมาย ทั้งส่วนที่เป็นเพียงขนมขบเคี้ยวและที่เป็นยาพิษก็มากมาย แล้วทำไมเราจึงเปิดรับวัฒนธรรมส่วนที่เป็นกะทิของเขาไม่ได้ ส่วนที่เป็นยาวิเศษ เป็นวิตามิน ที่สร้างภูมิต้านทานทางวัฒนธรรมให้สาธารณชน ส่วนที่ทำให้เขากลายเป็นประเทศมหาอำนาจ ในขณะที่เรายังล้มลุกคลุกคลาน? ท่านนึกภาพอังกฤษที่ไม่เคยมีเชคสเปียร์ได้หรือไม่? ทำไมเราจึงต้อนรับเฉพาะวัฒนธรรมขยะของเขา และกีดกันสิ่งที่ดีที่สุดของเขา?

เราพูดกันตลอดเวลา ว่าเราเป็นห่วงคุณภาพของคนไทยที่นับวันยิ่งโง่ ไอคิวเด็กไทยต่ำลงทุกครั้งที่สำรวจ จนต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของโลกไปแล้ว รัฐบาลไทยทำสิ่งที่ถูกต้องเมื่อให้ทุนสร้างภาพยนตร์ที่มีคุณค่าด้วยโครงการทุนไทยเข้มแข็ง พวกท่านได้รับคำชมเชยมากมายจากผู้คนในเรื่องนี้ นับเป็นย่างก้าวไปข้างหน้าที่สวยงาม แล้วทำไม แทนที่จะเดินหน้าต่อไป ท่านกลับหันหลังลงคลอง เพื่ออะไร?

ไม่ว่าพรรคใดจะเป็นผู้มีอำนาจ ส่วนอื่นๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำ เป็นหมอ เป็นนักธุรกิจ ครูอาจารย์ หรือศิลปิน ล้วนยังต้องทำหน้าที่ของตนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อตัวเอง และลูกหลานสืบไป แผ่นดินของเราต้องดำรงอยู่ ซึ่งจะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยคุณธรรมเท่านั้นเองจริงๆ ดิฉันเชื่อว่า การตัดสินใจของท่านในวันนี้ จะตามสิงสู่จิตสำนึกของท่านไปตลอดชีวิต ในวันที่เราไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ขอให้ท่านนึกถึงวันนี้ - - วันที่ท่านตัดสินใจไม่ทำหน้าที่ของท่านด้วยความกล้าหาญทางจริยธรรม ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง และปล่อยให้ความกลัวครอบงำตัวท่าน และคืบคลานเข้ากลืนพื้นที่สาธารณะทางสื่อจนหมดสิ้นไป ไม่เหลือพื้นที่หรืออากาศให้เราหายใจกันได้อีกเลย

...............................


Spoken Statement in Defence of ‘Shakespeare Must Die’

made by the film’s director, Ing K, to the Censorship Board

on 3 April 2012

“I did not make a Shakespearean film out of a desire to look cool or because I worship Western culture. Shakespeare does not belong only to England but to all the world. His work is a priceless cultural heritage of man that teaches us how to analyse others and ourselves. I would like to know why, for what possible reason, Thai people must be denied this legacy of mankind, which the rest of the world, people of all nations, have enjoyed for centuries? How many more times will a Thai film be made from a Shakespeare play? This one is the first and could well be the last.

Thai people have always been receptive to popular Western culture, especially the unbeneficial, the trite and inane as well as the harmful; junk food and poison of all kinds. Why then are we not permitted to enjoy the cream of it—that which is an antidote to poison, cultural vitamins that would fortify the public’s immunity against weakening influences—the part of their culture that made them a superpower while we crawl around in the dust? Can you imagine an England where Shakespeare had never been? Why do we welcome only their junk culture and keep out their best?

We’re always saying how worried we are that Thai people have grown more stupid with each passing day. Every time we check, Thai children’s average IQ falls ever lower, so that it is now below the global mean. The Thai government did the right thing when it funded quality films from the Creative Thailand Fund. For this you received much praise from the public. It was a beautiful step forward. Why then instead of advancing further, you are retreating back down the hill?

Whichever political party may be in power at any given time, the rest of the country, be they civil servants, doctors, businessmen, teachers or artists, must continue to perform their duties with a sense of responsibility towards society, themselves and the generations to come. Our country must survive and endure, and truly, it can only endure through virtue. I believe that your decision today will haunt you all your life; the day may soon come when we have no country to live in. When that day comes, may you recall this day—the day you decided not to perform your duty with moral courage, with true social responsibility, and allowed fear to overwhelm you and all that remains of public media space, so that we suffocate.”